ในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว “Digital Twin” หรือ “คู่แฝดดิจิทัล” กลายเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ทรงพลังและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในแวดวงอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจำลองข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่เป็นการสร้างแบบจำลองเสมือนจริงของสิ่งที่มีอยู่ในโลกจริง Digital twin โดยอาศัยข้อมูลจากเซนเซอร์ การประมวลผลแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อให้สามารถติดตาม คาดการณ์ และควบคุมกระบวนการต่างๆ

ได้อย่างแม่นยำ Digital twin ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น Digital Twin เริ่มต้นจากแนวคิดพื้นฐานของการสร้างแบบจำลอง (Modeling) ที่มีมาอย่างยาวนานในแวดวงวิศวกรรม แต่สิ่งที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้นคือความสามารถในการเชื่อมโยงโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนแบบเรียลไทม์

เทคโนโลยี Digital Twin จะดูเหมือนเป็นเรื่องของโลกอนาคต

เช่น เครื่องจักรกลในโรงงานสามารถถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบดิจิทัลที่สามารถสะท้อนสถานะการทำงานในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ หากเครื่องจักรเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำงานผิดปกติ Digital Twin จะสามารถตรวจจับได้ล่วงหน้าและแจ้งเตือนเพื่อให้มีการบำรุงรักษาก่อนที่จะเกิดความเสียหายจริง เทคโนโลยีนี้จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบการผลิตยุคใหม่ที่มุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0การประยุกต์ใช้ Digital Twin นั้นหลากหลายและครอบคลุมในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นในภาคอุตสาหกรรมการผลิต พลังงาน การก่อสร้าง การขนส่ง

แม้แต่ในวงการแพทย์หรือสาธารณสุข โดยเฉพาะในภาคการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมสามารถสร้างคู่แฝดดิจิทัลของสายการผลิตทั้งหมด Digital twin เพื่อจำลองการทำงาน ทดสอบกระบวนการใหม่ ๆ หรือวิเคราะห์จุดอ่อนที่ควรปรับปรุงก่อนที่จะดำเนินการในโลกจริง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและประหยัดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษาแบบล่วงหน้า หรือที่เรียกว่า Predictive Maintenance ซึ่งช่วยให้การซ่อมบำรุงเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักร (Downtime) และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และพลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์

นอกจากในภาคการผลิตแล้ว Digital Twin ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้าสามารถสร้างแบบจำลองเสมือนของระบบการผลิตพลังงานทั้งหมด เพื่อควบคุมการผลิตและการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงการคาดการณ์เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ความผิดปกติของอุปกรณ์ หรือความผันผวนของการใช้พลังงานในอนาคต ขณะที่ในภาคการขนส่ง Digital Twin ถูกนำมาใช้เพื่อจำลองเส้นทางการขนส่ง

ตรวจสอบสภาพยานพาหนะ หรือบริหารจัดการเส้นทางและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด Digital twin โดยอิงจากข้อมูลจริงที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์เทคโนโลยีนี้ยังขยายบทบาทไปถึงการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ด้วยการสร้างแบบจำลองของระบบต่าง ๆ ในเมือง เช่น ระบบไฟฟ้า การจราจร การระบายน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมแบบองค์รวม และคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.dtx.co.th/